CAFE VIDES AND GOOD TIMES
good day start with coffee and you
ร้านกาแฟ หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า คาเฟ่(Cafe) โดยลักษณะของคาเฟ่ คือ เป็นร้านที่ผสมรูปแบบระหว่างร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มเข้าด้วยกัน ซึ่งเครื่องดื่มจะเน้นไปที่กาแฟ ชา หรือช็อกโกแลต และส่วนใหญ่คาเฟ่ในแต่ละที่จะมีลักษณะเด่นที่แตกต่างไป เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและผู้ที่เข้ามาใช้บริการ บางร้านก็จะมีมุมถ่ายรูปสวยๆที่เอาไว้ดึงดูดลูกค้าสายคาเฟ่ บางร้านก็ผสมผสานสไตร์การตกแต่งร้านไปในแนวต่างประเทศเพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้รู้สึกถึงบรรยากาศของปรเะทศนั้นๆ เราจะรวมคาเฟ่ทั่วประเทศไทยมาให้ทุกคนได้มารู้จักและสัมผัสกับหลายๆคาเฟ่ที่ทุกคนอาจจะยังไม่รู้
แนะนำ 6 สไตล์การตกแต่งร้านคาเฟ่
การเปิดร้านกาแฟหรือคาเฟ่ไม่ได้มองแค่ปัจจัยเรื่องคุณภาพของเครื่องดื่มหรืออาหารและของหวานเท่านั้น เพราะไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ความสวยงามและบรรยากาศของร้านกาแฟจึงเป็นสิ่งสำคัญ ใครๆ ก็อยากหาที่พักผ่อน นั่งชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อน เจ้าของร้านกาแฟและคาเฟ่หลายคนที่กำลังจะเปิดร้านคงกำลังหาไอเดียตกแต่งร้านกาแฟ ให้สวยโดดเด่นไม่แพ้ร้านกาแฟเจ้าอื่น แต่ก็ต้องกังวลกับเรื่องงบในการตกแต่งร้านอีก วันนี้เราได้รวบรวมไอเดียการตกแต่งร้านกาแฟหลากสไตล์ เน้นสไตล์ที่มีความเป็นธรรมชาติ น้อยแต่สวยอย่างเรียบง่าย เพื่อช่วยประหยัดเรื่องบแต่งร้านกาแฟ มีงบน้อยก็แต่งร้านให้สวยได้ นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้ร้านแล้ว ยังทำให้ร้านของคุณมีจุดเช็คอินยอดฮิต เข้าลิสต์ร้านสวยบอกต่อของใครหลายคนได้อย่างแน่นอน!
1.Scandinavian Style
ตกแต่งร้านกาแฟด้วยสไตล์อบอุ่น ผสานไปกับความหอมกรุ่นของการคั่วเมล็ดกาแฟ ด้วยสไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian) หรือที่บางครั้งเราเรียกกันว่า สไตล์ นอร์ดิก (Nordic Style) ไอเดียการแต่งร้านละมุนสายตานี้เป็นการตกแต่งบ้านของคนในแถบยุโรปเหนือ โดยได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า Organic Form สไตล์สแกนดิเนเวียนเน้นใช้ความสว่างของสีขาวเป็นหลักเพื่อความนุ่มนวล บางครั้งมักจะถูกนำมาผสมกับการตกแต่งร้านที่มีลวดลายแนว Retro ในโทนสีพาสเทล ทำให้เส้นสายออกมาดูนุ่มนวลกว่างาน Modern ดูทันสมัยในขณะที่มีความย้อนยุคอยู่เช่นกัน เป็นอีกสไตล์หนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีความน่าสนใจ เน้นการใช้ฟังก์ชั่นที่เรียบง่าย ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เพิ่มความโปร่งให้กับร้านกาแฟของคุณโดยใช้หน้าต่างกระจก รับแสงธรรมชาติเข้ามา ลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์สีโทนอ่อน สบายตา ที่ทำให้บรรยากาศร้านดูอบอุ่นน่านั่งมากยิ่งขึ้น ผสมผสานเข้ากับความเป็นธรรมชาติ ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และตกแต่งด้วยต้นไม้ เพิ่มสีเขียวสบายตาเข้าไป โดยจะเน้นใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เลียนสีสันของธรรมชาติ เช่น โทนสีสว่าง โทนสีขาวเทา โทนสีน้ำเงินอมเขียว เป็นต้น
2.Modern Style
การตกแต่งร้านกาแฟด้วยสไตล์โมเดิร์น (Modern) นับว่าเป็นอีกหนึ่งสไตล์อมตะ ที่ถูกนำไปผสมผสานกับการตกแต่งสไตล์อื่นๆ ได้อีกมากมาย ด้วยความเรียบง่ายและดูดี มองได้ไม่มีเบื่อ แต่ขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่น สามารถปรับแต่ง เพิ่มเติมลูกเล่นให้มีสีสันและสไตล์ที่แปลกใหม่ได้เช่นกัน ทั้งยังหาเฟอร์นิเจอร์มาจับชุดเข้าคู่กันได้อย่างสวยงาม หนึ่งในหัวใจสำคัญของการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คือการเลือกโทนสี ควรใช้โทนสีเรียบๆ ไม่จัดจ้านจนเกินไป เช่น สีขาว เทา ดำ หรือจะเพิ่มความอ่อนหวานให้แก่ร้านของคุณด้วยการใช้สีโทนอ่อน ดูสบายตาและเรียบหรูไปได้พร้อมๆ กัน นอกจากการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่าย เข้ากันดีกับโทนสีของร้านแล้ว อย่าลืมลองเพิ่มลูกเล่นได้ง่ายๆ ด้วยการจัดไฟ อาจใช้โคมไฟเพดานดีไซน์เท่ๆ หรือโคมไฟตั้งพื้นก็สวยไม่แพ้กัน ควรเลือกใช้ไฟที่เป็นแสงสลัวๆ ไม่สว่างจ้ามากจนเกินไป เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและเรียบหรูให้กับร้านของคุณ
3.Rustic Style
ดื่มกาแฟยามเช้าในบรรยากาศเรียบง่าย อบอุ่นสไตล์ชนบท ด้วยการตกแต่งร้านกาแฟสไตล์รัสติค (Rustic) หรือที่เรียกกันว่า Country style ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากบ้านแบบ American traditional log home หรือบ้านของชาวอเมริกันที่มีการใช้ไม้ซุงท่อนใหญ่มาสร้างบ้าน พัฒนาผสมกับรูปแบบของ Farm house หรือ โรงนา ความโดดเด่นของสไตล์รัสติค คือการนำไอเดียของการเผยให้เห็นพื้นผิวที่เป็นเนื้อแท้ หรือธรรมชาติของวัสดุนั้นมาใช้ โดยจะใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้หรืองานเหล็ก ที่มีร่องรอยของความเก่าและสนิม ไปจนถึงพื้น ผนัง ฝ้าต่างๆ ที่อาจเป็นผนังอิฐก่อโชว์แนว หรือแม้แต่การกร่อน ไม่สมบูรณ์ของอิฐ เหมือนการถูกปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา การตกแต่งร้านกาแฟผสมผสานระหว่างของเก่าและของใหม่ให้เกิดความลงตัวมากที่สุด รูปทรงและสี มีผลต่อการตกแต่งร้านสไตล์นี้เป็นอย่างมาก โดยจะยึดรูปทรงและสีธรรมชาติเดิมของวัสดุนั้นๆไว้ให้มากที่สุด เช่น โต๊ะที่มีขาทำจากท่อนไม้ อาจคงความขรุขระ คงตาไม้ไว้ ให้มีรูปทรงและผิวแบบเดิมมากที่สุด หรือจะเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนที่มีร่องรอยความเก่า มีการกะเทาะของปูน เราอาจคงไว้ให้เห็นบางส่วน เพื่อเพิ่มความเป็น Rustic Style ส่วนผนังบางส่วนที่ชำรุดมาก อาจต้องซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
4.Industrial & Loft Style
อีกหนึ่งสไตล์การตกแต่งร้านกาแฟยอดฮิตที่พบเห็นได้ตามร้านกาแฟและคาเฟ่สวยๆ ในทุกวันนี้ โดยจุดเด่นของการตกแต่งร้านสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ (Industrial Loft) คือการดึงสีธรรมชาติของไม้ เหล็ก สนิม ปูน อิฐ รวมไปถึงความโปร่งใสของวัสดุแก้วและกระจก ทั้งโครงเหล็กสีดำปล่อยว่างบนเพดาน ท่อ Pipe น้ำที่โผล่ให้เห็นทุกๆที่ ฝาผนังที่ไม่ได้ฉาบปูนเห็นเป็นเนื้ออิฐเรียงราย เน้นเรื่องของต้นทุนการแต่งร้านและลดทอนเหลือแต่ประโยชน์การใช้งานล้วนๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียการแต่งร้านกาแฟที่เข้าทางคำว่า งบน้อย เลยทีเดียว จุดเด่นของสไตล์ลอฟท์คือการเผยความดิบเปลือยของโครงสร้างต่างๆ และเน้นการใช้เพดานสูงเพื่อเพิ่มความโล่งโปร่งให้แก่ร้าน ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป นอกจากนี้ยังนิยมผสมผสานความเป็นวินเทจเข้าด้วยกันโดยใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสมัยก่อน อย่างเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผสมกับการใช้เฟอร์นิเจอร์เหล็ก เช่น เก้าอี้ Stool หรือ เก้าอี้ที่มีเพียงโครงเหล็กและไม้มาวางไว้ เป็นต้น นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ต้นไม้ หรืออุปกรณ์ตกแต่งอื่นมาลดทอนความแข็งและความดิบของพื้นที่ปูนเปลือย หรือโครงเหล็กต่างๆ เพื่อทำให้ไม่รู้สึกเหมือนโรงงานจนเกินไป บวกกับการจัดไฟด้วยการเลือกใช้ไฟสีเหลืองนวล หรือหลอดไฟไส้กลมดวงโต (Light Bulb) ที่สวยเข้ากันดีกับโทนของร้านได้เช่นกัน สไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์และรัสติคอาจดูมีความใกล้เคียงกันในแง่ของการตกแต่งเพื่อคงความเป็นธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ให้มากที่สุด เปลือยองค์ประกอบต่างๆ ให้ถึงร่องรอยของความเก่าและอายุการใช้งาน แต่ทั้งสองสไตล์ก็มีความแตกต่างกันไป เช่น อินดัสเทรียลลอฟท์จะให้ความรู้สึกของโครงสร้างที่ดิบกว่า อาจไม่ได้ดูนุ่มนวลเท่าการตกแต่งสไตล์รัสติค
5.Retro Style
เท่ไม่เหมือนใคร ด้วยการตกแต่งร้านกาแฟสไตล์เรโทร (Retro) สร้างบรรยากาศที่ดูสนุกสนาน มีชีวิตชีวามากขึ้น เอกลักษณ์ของสไตล์ Retro คือ เรื่องสีสันและรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์แตกต่างกัน แต่ยังคงความเรียบง่ายและดูร่วมสมัย ผสมผสานความเป็นอดีตและปัจจุบันได้อย่างลงตัว โดยตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มาจากยุค 50′s, 60′s และ 70′s ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคเก่าๆ อีกครั้ง ไอเดียการแต่งสไตล์ย้อนยุคมักจะได้อิทธิพลมาจากแฟชั่นในแต่ละยุค ซึ่งมีเอกลักษณ์และความแตกต่างกันไป สไตล์ Retro กับ Vintage อาจเป็นสองสไตล์ที่หลายคนยังแยกความแตกต่างไม่ได้ โดยการตกแต่งร้านสไตล์ Retro จะดูทันสมัยและให้ความรู้สึกสนุกสนานกว่า แตกต่างจากสไตล์ Vintage ที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนหวานมากกว่า จะเพิ่มความเท่ด้วยการเพนท์กำแพงเป็นรูปวาดหรือข้อความต่างๆ ในสไตล์ยุค 50-70’s หรือจะใช้วอลเปเปอร์ในสีสันต่างๆ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับร้านได้มากขึ้น พาลูกค้าของคุณให้หลุดเข้าไปในอีกยุคได้ง่ายๆ ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เก๋าสีสด หรือเป็นลายกราฟิคแปลกตา ดึงชีวิตชีวาของความเป็น Retro กลับมาอีกครั้ง ในตอนนี้บริษัทเฟอร์นิเจอร์เจ้าใหญ่ๆ มีเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Retro ให้เลือกหลากหลายมากขึ้น แต่หากอยากได้กลิ่นอายของวันวานในอดีตอย่างแท้จริง เฟอร์นิเจอร์ช่วงยุค 50’s , 70’s ตามแหล่งขายเฟอร์นิเจอร์มือสองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ อย่างเช่น โซฟาเบาะหนังสีเข้ม ให้กลิ่นอายหนังเก่าที่ผ่านการใช้งานแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในวันเก่าๆ
6.Tropical Style
การตกแต่งร้านสไตล์ Tropical คือการดึงสีสันสดใสของธรรมชาติและเอกลักษณ์ของพืชพรรณจากภูมิประเทศที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น การตกแต่งสไตล์นี้จึงเป็นการผสานพื้นที่อยู่อาศัยและธรรมชาติแวดล้อมให้ไปด้วยกันอย่างลงตัว เน้นพื้นที่เปิดโล่งรับลม หรือสรรหาวัสดุท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ไม้ ไม้ไผ่ หวาย เป็นต้น เราอาจคุ้นเคยกันดีกับแพทเทิร์นของไม้จำพวกเฟินที่ให้สีเขียวแก่และสีชมพูสดของดอกลั่นทมบนผนัง จนเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าร้อนชื้น รวมถึงลวดลายบนปลอกหมอนและเบาะนั่งของโซฟา ซึ่งมักจะนิยมมาใช้ตกแต่งเพื่อให้ร้านเข้ากับความเป็น Tropical Style มากยิ่งขึ้น การตกแต่งสไตล์ Tropical ยังเหมาะนำมาใช้กับพื้นที่ outdoor ที่เปิดรับแสงแดดและสายลม นั่งจิบน้ำผลไม้ พูดคุยเล่นกับกลุ่มเพื่อน ก็นับว่าเป็นสถานที่ที่พักผ่อนที่ไม่เลวเลยทีเดียว ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังได้ไปเที่ยวพักผ่อนตากอากาศชมวิวอยู่ที่บ้านริมทะเลซักหลัง ทำให้ให้มีรูปแบบเหมือนได้ไปพักผ่อนตากอากาศ เป็นการสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย แตกต่างจากคาเฟ่อื่นๆ ที่เราเคยเห็นได้อีกด้วย เพิ่มบรรยากาศของความเป็นป่าร้อนชื้นเข้าไปด้วยการสรรหาต้นไม้ใบสวยๆ สักต้นสองต้นมาไว้ในห้องของคุณ อย่างต้นจั๋ง ต้นไทรใบเล็ก ต้นหมากผู้หมากเมีย หรือต้นฟิโลเดนดรอน (ที่หน้าตาคล้ายใบมะละกอ) วางไว้มุมใดมุมหนึ่งในห้อง ช่วยเสริมบรรยากาศหน้าร้อนได้อย่างดี โดยเฉพาะต้นไทรใบเล็กนั้นไม่ต้องการน้ำมากและยังดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ยังตกแต่งพื้นหรือฝ้าเพดานด้วยสีสันของธรรมชาติ อย่างสีเขียวแก่ เป็นลวดลายต่างๆ ให้บรรยากาศรอบตัวมีชีวิตชีวามากขึ้น
Why Choose Us
Passionate
Tempor ullamcorper urna, est, lectus amet sit tempor pretium mi sed morbi cras posuere sit ultrices bibendum augue sit ornare.
Professional
Tempor ullamcorper urna, est, lectus amet sit tempor pretium mi sed morbi cras posuere sit ultrices bibendum augue sit ornare.
Support
Tempor ullamcorper urna, est, lectus amet sit tempor pretium mi sed morbi cras posuere sit ultrices bibendum augue sit ornare.